You are currently viewing หน้าเบี้ยวครึ่งซีก ..รีบรักษา อย่าปล่อยไว้ 📣
โรคอัมพาตใบหน้า อาจเป็นโรคที่ไม่อันตรายถึงชีวิตก็จริง แต่สามารถกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วย ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม การรักษาด้วยการฝังเข็มและครอบแก้ว จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่สามารถช่วยฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ

หน้าเบี้ยวครึ่งซีก ..รีบรักษา อย่าปล่อยไว้ 📣

โรคอัมพาตใบหน้า หน้าเบี้ยวครึ่งซีก “Bell’s Palsy”

❓ หน้าเบี้ยวครึ่งซีก เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 (Facial Nerve) ซึ่งส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อบนในหน้า ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง

 ✨ปัจจุบัน โรคอัมพาตใบหน้า หรือ Bell’Palsy เป็นภาวะที่พบได้บ่อยขึ้น โดยพบผู้ป่วย 11-40คน ต่อ 100,000 คน ในประชากรทั่วโลก จะพบมากที่สุดในช่วงอายุ 20-39 ปี ทั้งเพศชายและหญิง  ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ พบได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งถ้าหากได้รับการรักษาที่ถูกต้องอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยสามารถรักษาให้หายได้เกือบ 100% ภายในเวลาประมาณ 2 เดือน โดยการรักษามีหลายวิธี เช่น การใช้ยาแก้อักเสบ ใช้วิธีกายภาพ และการรักษาทางแพทย์แผนจีนด้วยการฝังเข็มหรือครอบแก้วนั่นเอง

สาเหตุของโรคอัมพาตใบหน้า  :

แบ่งออกเป็น 4 สาเหตุ หลักๆ

  • สาเหตุไม่แน่ชัด โดยพบมากที่สุดในช่วงอายุ 20 – 39 ปี
  • การได้รับอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้เกิดการบาดเจ็บบริเวณใบหน้า หรือกะโหลกศีรษะ ทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทสมองคู่ที่7
  • การติดเชื้อไวรัส ส่งผลให้เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 เกิดการอักเสบ โดยเชื้อที่พบมากที่สุดคือ Herpes simplex
  • เกิดจากเนื้องอกบริเวณศีรษะและคอ ทำให้เส้นประสาทถูกกดทับ

☯️ ซึ่งในทางการแพทย์แผนจีนนั้น มองว่าการที่ผู้ป่วยทำงานหนักมากเกินไป พักผ่อนน้อย มีความเครียด ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะพร่อง ร่างกายอ่อนแอจึงทำให้ปัจจัยก่อโรคภายนอก อันได้แก่ ลม ความร้อน ความเย็น ความชื้น และเสมหะ เข้ามากระทบร่างกาย อุดกั้นเส้นลมปราณ ได้โดยง่าย ทำให้ชี่และเลือดไหลเวียนติดขัด ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าทำงานผิดปกติ

บุคคลเสี่ยงก่อให้เกิดโรคอัมพาตใบหน้า

💢 บุคคลในครอบครัวมีประวัติการเป็นโรคอัมพาตใบหน้า

💢 บุคคลที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน

💢 บุคคลที่เป็นโรคอ้วน

💢 บุคคลที่มีภาวะความเครียดสูง

อาการ

โรคนี้ผู้ป่วยมักมีอาการเกิดขึ้นที่ใบหน้าเพียงครึ่งซีก

📍ไม่สามารถเลิกหน้าผาก ยักคิ้ว หรือขมวดคิ้วได้

📍ตาปิดไม่สนิท ขณะที่พยายามปิดตา ลูกตาจะกลอกขึ้น อาจส่งผลให้อาจมีอาการตาแห้ง

📍มุมปากเบี้ยว ปิดไม่สนิท มีน้ำรั่วออกมาที่มุมปากเวลาดื่มน้ำ

📍ไม่เกิดรอยย่นบริเวณหน้าผาก และร่องแก้ม

📍พูดไม่ชัด หรือการพูดสื่อสารที่เปลี่ยนไปจากปกติ

📍บริเวณหูและใบหน้าเกิดตุ่มน้ำใส ในกรณีที่คนไข้ติดเชื้อไวรัส Herpes Zoster

📍ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการที่ ระดับการได้ยินไวกว่าปกติ หูอื้อ มีเสียงดังในหู

วิธีทดสอบโรคอัมพาตใบหน้าด้วยตนเอง

>  เลิกคิ้วขึ้น 2 ข้าง : คิ้วทั้ง2 ต้องสูงเท่ากัน หรือห่างกันเพียงเล็กน้อย

>  หลับตาทั้ง 2 ข้าง : ตาทั้ง2 ข้างต้องปิดสนิท

>  ยิ้มกว้างๆ : ต้องยิ้มเท่ากันทั้ง2 ข้าง

ระยะการเกิดโรค

แบ่งระยะของโรคเป็น 3 ระยะ

  1. ระยะเกิดอาการ หรือ ระยะเฉียบพลัน : เป็นระยะแรกตั้งแต่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกอ่อนแรงเล็กน้อย จากนั้นอาการของผู้ป่วยจะค่อยๆมากขึ้น จนกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงสมบูรณ์ และอยู่ในระดับคงที่ ใช้ระยะเวลาประมาณ 15 วัน
  2. ระยะฟื้นตัว : เป็นระยะที่มีการฟื้นตัวจากอาการของโรค อาการกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงค่อยๆดีขึ้น ผู้ป่วยสามารถแสดงออกทางสีหน้าและเคลื่อนไหวส่วนต่างๆบนใบหน้าได้ดีขึ้น ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 16 จนถึง 6 เดือน
  3. ระยะสุดท้าย หรือ ระยะมีอาการหลงเหลือ : หลังจากระยะของโรคเกิน 6 เดือนไปแล้ว อาการของโรคจะฟื้นตัวได้ยาก โดยอาการที่หลงเหลืออยู่ จะเรียกว่าเป็นอัมพาตเรื้อรัง  ไม่สามารถหายได้เป็นปกติ

☯️ การแยกกลุ่มอาการในทางการแพทย์แผนจีน

  1. อาการที่เกิดจากการได้รับลม และความเย็นจากภายนอก เข้ามากระทบเส้นลมปราณ ผู้ป่วยมักมีประวัติโดนลมกระทบเป็นเวลานาน ลิ้นเล็ก ฝ้าลิ้นสีขาวบาง
  2. อาการที่เกิดจากการได้รับลม และความร้อนจากภายนอก เข้ามากระทบเส้นลมปราณ ผู้ป่วยมักมีอาการหลังจากที่มีไข้ หรือติดเชื้อไวรัส ลิ้นแดง ฝ้าลิ้นเหลือง
  3. อาการที่เกิดจากการได้รับลม และความชื้น เสมหะเข้ามาอุดกั้นเส้นลมปราณ ผู้ป่วยมักมีเสมหะ รู้สึกตัวและศีรษะหนัก แน่นหน้าอก หน้าเกร็งชา หรือมีอาการหน้ากระตุก ลิ้นอ้วน ฝ้าลิ้นขาวหนา
  4. อาการที่เกิดจากชี่และเลือดภายในร่างกายพร่อง พบในผู้ป่วยที่เป็นโรคมานาน มักมีอาการเวียนศีรษะ ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย แขนขาอ่อนแรง หน้าซีด ลิ้นซีด
  5. อาการที่เกิดจากชี่พร่อง และมีเลือดคั่ง พบในผู้ป่วยระยะหลัง มักมีอาการกล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก เหนื่อยง่าย ลิ้นซีดมีสีคล้ำ ฝ้าลิ้นขาวบาง

ฝังเข็มร่วมกับการครอบแก้ว รักษาโรคอัมพาตใบหน้าได้จริงไหม❓

💡ฝังเข็มช่วยอะไร

  • ฟื้นฟูและกระตุ้นระบบประสาทที่เกิดความเสียหาย
  • ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองและร่างกายได้ดีขึ้น ลดอาการตึงชาบริเวณใบหน้า
  • กระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าแข็งแรง ชะลอการลีบของกล้ามเนื้อ

ควรฝังเข็มตอนไหน : หากผู้ป่วยมีอาการ ให้รีบมารักษา ยิ่งรักษาเร็วยิ่งดี เนื่องจากจะสามารถฟื้นฟูประสิทธิภาพของระบบประสาทและสมองที่เสียหายได้ดีกว่า

💡ครอบแก้วช่วยอะไร

  • กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณใบหน้า
  • กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ
  • ปรับสมดุลร่างกาย
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ขับสารพิษออกจากร่างกาย

⚠️ การป้องกันโรค

  • ไม่ทำงานหักโหมจนเกินไป นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงการโดนลมกระทบเป็นเวลานาน
  • ไม่เครียดจนเกินไป ทำจิตใจให้สงบ
  • หมั่นบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ

โรคอัมพาตใบหน้า อาจเป็นโรคที่ไม่อันตรายถึงชีวิตก็จริง แต่สามารถกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วย ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม การรักษาด้วยการฝังเข็มและครอบแก้ว จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่สามารถช่วยฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ

“พบแพทย์จีนเจินฟู่ ยิ่งรักษาไว ยิ่งเห็นผลไว”

เจินฟู่คลินิก โดยแพทย์แผนจีน รักษาโรคด้วยการฝังเข็ม ครอบแก้ว ยาจีน

ติดต่อเจินฟู่คลินิก

🔴โลเคชั่นเจิน ฟู่ คลินิก แพทย์แผนจีน มี2สาขาคะ
👇👇👇

❤️สาขาโชคชัย4❤️
🏥โครงการ The Shelter จอดรถได้200 คัน
ถ. โชคชัย 4 เขตวังทองหลาง สะพานสอง กรุงเทพมหานคร โทร 0625966955
เปิดทุกวัน 10.00-20.00
location👇
Google map โลเคชั่นเจิน ฟู่ คลินิก แพทย์แผนจีน
https://goo.gl/maps/3YCsjtcc8sNYVhxJA

❤️สาขารามอินทรา❤️
อาคารศูนย์การค้า เดอะแจสรามอินทรา จอดรถได้200คัน
ห้อง A201A
ชั้น2 เลขที่87 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพ โทร 020389955
เปิดทุกวัน 10.00-20.00
Location 👇
http://bit.ly/45M80uW

ใส่ความเห็น